สร้างบทความชั้นยอดใน 8 ขั้นตอน
สร้างบทความชั้นยอดใน 8 ขั้นตอน
เมื่อเริ่มคิดที่จะเขียนอะไรก็ตาม หลักการสำคัญคือ คุณมีความเข้าใจจิตวิทยาพื้นฐานของมนุษย์ มากแค่ไหนไม่ว่าการขาย การตลาด การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องจิตวิทยาของมนุษย์ทั้งสิ้น ซึ่งก็ไม่ได้ยากอะไรนัก หากคุณฝึกฝนจนชำนาญ เพราะวิธีคิดตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ไม่หนีไปจากหลักการนี้เลย บางคนบอกว่า ขนาดคนที่สนใจยังไม่คลิก แล้วคนที่ไม่สนใจหน่ะเหรอ ไม่มีทาง มันยากมาก ๆ
ไม่มีอะไรยากหรอก แค่เรายังไม่ชินกับมันเท่านั้นเอง สิ่งสำคัญ คือ “ประเด็น” ที่คุณจะเขียน คิดออกมาให้ชัดเจน แล้วตีกรอบความคิดกับประเด็นนั้น ให้แคบที่สุด เพื่อให้การเขียนนั้นเจาะลึก ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นก็คิด Headline ( พาดหัว ) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการดึงดูดคนทุกคนที่เห็น ทั้งที่สนใจ และไม่สนใจ ให้ติดตามอ่านต่อ
คุณคิดว่าโอกาสที่คน ๆ หนึ่ง จะพิจารณาสิ่งที่อยู่ตรงหน้า กี่นาที ในการตัดสินใจคลิกดูต่อ หรือคลิกออกไป ติ๊กตอก ๆ ๆ ๆ … เวลามันสั้นเพียง 0.003 วินาที เท่านั้นค่ะ รวดเร็วซะยิ่งกว่าเรากระพริบตาด้วยซ้ำไป ดังนั้น โอกาสคนที่ไม่สนใจเลยและคลิกออกทันที จึงมีเปอร์เซ็นต์สูงถึง 99.997 % ทั้ง ๆที่เขาอาจจะมีความต้องการจะซื้อในโอกาสต่อไปเพื่อตัวเขาเอง หรือคนใกล้ตัวเขา หรือมีความสนใจมากขึ้นเมื่อเขาได้คลิกอ่านต่อ
เนื้อหาข้างใน ก็สำคัญไม่น้อยเลย เพราะเป็นรายละเอียดที่บอกถึงสิ่งที่เขาจะได้รับจากการคลิกเข้าไปดู สำคัญ! คือ อย่า! เขียนเนื้อหาให้ยืดยาว หรือบอกกล่าวให้มากความ เพราะพื้นฐานของมุนษย์ ไม่ชอบอ่านอะไรเยอะแยะ ไม่ชอบฟังการอธิบายมาก ๆ แต่อยากรู้ผลลัพธ์ ว่าเขาจะได้อะไร จะช่วยเขายังไงมากกว่า
โฆษณาที่ดี คือโฆษณาที่ใช้คำอธิบายน้อยที่สุด
ใช้เวลาน้อยที่สุด ตรงประเด็นที่สุด
ตัวอย่างโฆษณาที่ดีของต่างประเทศ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เป็นโฆษณาขายรถยนต์ Toyota Crown ทางทีวี ซึ่งใช้หลักการเดียวกันกับโฆษณาในปัจจุบันของบ้านเรา อย่างโฆษณากาแฟเนเจอร์กี๊ฟ , สินมั่นคงประกันภัย, กรุงศรี จีอี Cars4cash ฯลฯ
โฆษณารถ Toyota Crown เขาสื่อด้วยภาพและเสียงเพลง 30 วินาที โดยไม่มีคำพูดและข้อความอะไรเลย ประเด็น ก็คือ ต้องการสื่อให้เห็นถึงระบบการสั่นสะเทือนที่ดีที่สุด ด้วยความเร็ว 160 ก.ม./ชั่วโมง ภาพที่สื่อออกมา ก็คือ เปิดฉากด้วยรูปโลโก้รถ พร้อมเสียงเพลงบรรเลง ตามด้วยภาพคนขับที่กำลังสูบบุหรี่ขณะขับรถ จากนั้นคนขับก็วางบุหรี่ไว้ข้างตัว แล้วเริ่มเร่งความเร็วไปจนถึง 160 ก.ม./ชั่วโมง แพนภาพกลับมาที่บุหรี่ ที่มีขี้บุหรี่ติดอยู่เกือบครึ่งม้วนโดยไม่ร่วงเลย แล้วจบท้ายด้วยการขึ้นโลโก้ของรุ่นรถ
โฆษณานี้ ถือว่าสื่อได้ชัดเจนตรงประเด็น ทุกคนที่เห็น แม้ว่าจะไม่สนใจที่จะซื้อรถเลยในขณะนั้น ภาพโฆษณาก็สามารถดึงดูด ให้ติดตามดูจนจบ และเข้าใจภายใน 30 วินาที ว่ารถรุ่นนี้ มีระบบควบคุมการสั่งสะเทือนที่ดีมาก ขับแล้วนิ่งเสียจนขี้บุหรี่ยังไม่ร่วงเลย ซึ่งปัจจุบัน ก็มีโฆษณารถยี่ห้ออื่นนำไปเลียบแบบ โดยสื่อด้วยถ้วยกาแฟบนรถที่ขับเร็ว ขนาดน้ำในแก้วยังไม่กระเพื้อมเลย
การเขียนโฆษณาอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน คุณสามารถวิเคราะห์ โดยใช้พื้นฐานทางความคิดของคุณเอง ถามตัวคุณเองก่อนว่า ถ้าสื่อออกไปแล้ว คุณคิดว่า ตัวคุณเองจะคลิกดูต่อมั๊ย ความคิดของคุณ จึงต้องเป็นกลางที่สุด อย่าเข้าข้างตัวเอง โดยใช้หลักการของ Million Dallar Skill ด้วยกฏ 40-40-20 แล้วทำตาม 8 ขั้นตอนการเขียนโฆษณาดูดคนเข้า Blog เพียงเท่านี้ ไม่ว่าคุณจะสื่ออะไรออกไป ก็จะสะกิดใจ แม้แต่คนที่ไม่สนใจอย่างแน่นอน
การเขียนโฆษณา เป็นเรื่องของความคิดสร้างสรร ในการสื่อข้อมูลออกไปให้ผู้คนรับรู้ ชวนเชื่อ และจดจำ เป็นเรื่องที่คุณต้องตรึกตรองอย่างละเอียด และใช้เวลาทุ่มเท จริงจังกับการประมวลความคิดสร้างสรร เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด ให้คุ้มค่ากับเวลาที่คุณใส่ใจมันลงไป ไม่ใช่ทำไปเพื่อเพิ่มปริมาณ แต่ไร้คุณภาพ แล้วก็ไม่เกิดผลลัพธ์อะไรกลับมาเลย
ผลลัพธ์ที่ทรงพลังจาก “Million Dollar Skills” ไม่ว่าคุณจะกำลังเขียนข้อความโฆษณา เขียนบทความ สร้าง Capture Page สร้าง Blog สร้าง Website หรือโฆษณาขายสินค้าอะไรก็ตาม 8 ขั้นตอน ที่คุณต้องตั้งสติ ทุกครั้งที่นั่งเขียน คือ
1. คุณต้องรู้ว่า ใครคือกลุ่มเป้าหมายของคุณ เขาเหล่านั้นต้องการอะไร และสินค้าของคุณสามารถให้ผลลัพธ์ ให้ประโยชน์ หรือช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้มากแค่ไหน
2. สิ่งที่คุณกำลังนำเสนอนั้น มันช่วยเขาได้อย่างไรบ้าง เพราะจิตวิทยาของมนุษย์ เวลาเขาดูโฆษณาของใครก็ตาม เขาไม่ได้ต้องการรู้หรอกค่ะว่าสินค้าคุณยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่เขาต้องการรู้ว่ามันจะช่วยเขาได้ยังไง
3. โฆษณาที่คุณเขียน มันไม่ได้เป็นสะพานที่จะทำให้ “สินค้าวิ่งไปหาลูกค้า” เอง แต่เป็น “สะพานให้ลูกค้าวิ่งมาหาคุณ” เขียนยังไงให้ดึงดูดเขามาหาเราเอง นี่คือหนทางแห่งความสำเร็จค่ะ
4. ตีกรอบให้กลุ่มแคบลงที่สุด เล็กลงที่สุด แล้วคุณจะเขียนโฆษณาออกไปได้ตรงจุดที่สุด ขอให้จำไว้นะคะว่า “ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นลูกค้าของคุณ” และ อย่า! โฆษณาแบบเหวี่ยงแห เพราะ ถ้าคุณคิดว่าทุกคนคือลูกค้า นั่นเท่ากับว่าคุณจะไม่ได้ลูกค้าที่แท้จริงเลยแม้แต่คนเดียว
5. ทำในสิ่งที่คุณพูด ข้อความโฆษณา จะต้องตรงกับเนื้อหาในเว๊ปไซด์ของคุณ นั่นคือ ทำให้สิ่งที่คุณนำเสนอ
6. การขายจะไม่มีวันเกิดขึ้นเลย ถ้าปราศจาก “ความเชื่อถือ” เพราะเขาจะไม่มีวันตัดสินใจซื้อสินค้าคุณเลย ถ้าเขารู้ว่ามันไม่เกิดประโยชน์อะไรกับเขา
7. เมื่อคุณได้ทำตามครบทั้ง 6 ขั้นตอนแล้ว ขั้นตอนสุดท้าย ก็คือ “บอกให้เขาซื้อทันที” เพราะเขาถูกคุณโน้มน้าวใจมาตลอด สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ “ปิดการขายให้ได้” ด้วยการบอกเขาตรง ๆ เลยว่า เมื่อเขาซื้อสินค้าของคุณแล้ว เขาจะได้ประโยชน์อะไร สินค้าของคุณจะช่วยแก้ปัญหาให้กับเขาได้ยังไงบ้าง “ตอกย้ำคำมั่นสัญญาที่คุณมีให้เขาทันที“
8. สำคัญสุดๆสำหรับขั้นนี้ ควรเป็นขั้นตอนแรกในการที่คุณจะนั่งเขียนบทความสักอย่าง อย่าลืมว่าคุณกำลังจะขายอะไรให้ใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นการขายของหรือขายไอเดีย แบ่งปันเรื่องราว คุณต้องคาดหวังผลจากการกระทำ แล้วคุณจะได้ซึ่งสิ่งที่คุณคาดหวัง
อย่ามัวแต่โปรโมทบทความ ปั่น seo หาทราฟฟิก จนลืมไปว่าต้องการสิ่งใดจากสิ่งที่คุณกำลังลงมือทำมันอยู่ ถ้าคุณทำงานเพลินไปจนลืมเป้าหมายของงาน เป้าหมายของชีวิต ก็คงถึงเวลาที่คุณต้องทบทวนสินค้า (ไอเดีย) ที่คุณเคยขายให้กับตัวเอง จนเชื่อมั่นและลงมือทำ ทบทวนดูบ้างว่าไอเดียเดิมๆของคุณจะยังคงใช่และเหมาะสมอยู่ไหม
ความคิดเห็น