เพื่อน

การเลือกใช้ชีวิตแบบฟรีแลนซ์บางครั้งอาจหมายความว่า เพื่อนในชีวิตคุณจะน้อยกว่าคนปกติทั่วไป น้อยกว่าชีวิตการทำงานในออฟฟิส แต่มันไม่สำคัญในยุคสมัยที่หาเพื่อนหรือติดต่อเพื่อนได้ในโลกออนไลน์ได้ง่ายดายเช่นนี้ ในโลกที่คุณเลือกเพื่อนได้มากมาย หลายคนเลือกคบเพื่อนที่เขียนหรือพูดแต่เรื่องดีๆ หลายคนเลือกคบเพื่อนที่รักชอบเหมือนกับตัวเอง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามปฏิสัมพันธ์ที่เรามีกับเพื่อนไม่ว่าจะเป็นทางออนไลน์หรือในชีวิตจริง ควรระมัดระวังและใส่ใจการพูดการแสดงออกอย่างยิ่ง เพื่อนที่ดีมีค่าดั่งทองคำ อย่าปล่อยให้สูญเสียไปง่ายๆ ครับ


คำว่า เผิงโหย่ว (朋友) ที่แปลว่า "เพื่อน" ในภาษาจีนนั้นมีความหมายลึกซึ้ง

สำหรับวัฒนธรรมจีนนั้น หากนับถือกันเป็นเผิงโหย่วแล้ว หมายถึงความซื่อตรงต่อกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เสียสละให้กันและกัน และยึดมั่นในมิตรภาพที่มีต่อกันจนชั่วลูกชั่วหลาน

ช่วงที่ประเทศจีนเริ่มปรับตัวและเปิดสัมพันธ์กับนานาประเทศนั้น ผู้นำต่างชาติที่คนจีนประทับใจมากที่สุดคนหนึ่ง คือ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช

ในฐานะนายกรัฐมนตรีและราชนิกุลไทย ผู้เปิดศักราชความสัมพันธ์ไทย-จีน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ยังคงเป็นที่จดจำในหมู่คนจีน ด้วยความสามารถทางการทูตอันเยี่ยมยอด ประกอบกับบทสนทนาอันลือลั่นที่บันทึกไว้ในหน้าประวัติศาตร์ไทย-จีน จึงทำให้คนไทยและประเทศไทยในสายตาคนจีนนั้นคือ "เผิงโหย่ว" ตราบจนทุกวันนี้




kukrit_and_moun_01


...............

"ท่านมาหาคอมมิวนิสต์อย่างข้าพเจ้า ท่านไม่กลัวหรือ"

"หามิได้ ข้าพเจ้ามีความเลื่อมใสศรัทธาท่านประธานมานาน ข้าพเจ้าไม่ได้มาหาคอมมิวนิสต์ แต่ข้าพเจ้ามาหาเพื่อน"

"เจียงไคเช็คบอกว่าข้าพเจ้าเป็นหัวหน้าโจร ท่านยังต้องการคบข้าพเจ้าเป็นเพื่อนอีกหรือ"

"แต่ท่านก็ไม่เคยปล้นชิงทรัพย์ข้าพเจ้า"

"ท่านประธาน ข้าพเจ้าว่ามาพูดกันแบบนี้ดีไหม ข้าพเจ้าไม่ใช่คนเหนือคนแต่อย่างไร ก็มีคนบอกว่าข้าพเจ้าเป็นคนชั่วร้าย ชั่วร้ายมาก ทำเรื่องชั่วร้ายมาเยอะมาก มากจนตัวเองก็จำไม่ได้ว่ามีสักเท่าไร แบบนี้เราคงไปมาหาสู่กันได้แล้วกระมัง"

"ได้แล้ว เรามาเป็นเพื่อนกันได้แล้ว"

"มิได้ ท่านเป็นผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าควรรู้จักที่ต่ำที่สูง"

"ท่านประธาน กรุณาให้คำแนะนำให้แก่พรรคของข้าพเจ้าด้วยเถิด"

"พรรคกิจสังคมของท่านนั้น มีสมาชิกน้อยเกินไป ต้องหาทางเพิ่มสมาชิกพรรคให้ได้"

"ท่านประธานที่เคารพ ท่านมีความเห็นประการใดกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย"

"ข้าพเจ้าแนะนำว่าท่านทั้งหลายควรใช้นโยบาย 3 อย่างในการจัดการกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย นั่นคือ 1. อย่าไปด่ามัน 2. อย่าไปฆ่ามัน พวกมันอยากเป็นวีรบุรุษ ฆ่าไปคนหนึ่ง คนอื่นก็โผล่มาอีก 3. อย่าส่งกองกำลังไปล้อมไปปราบ พวกมันหนีได้เร็ว ทหารไปถึงก็หนีไปหมดแล้ว ทหารถอนกลับ คอมมิวนิสต์ก็หวนกลับมาอีก"

"ข้าพเจ้าก็ใช้วิธีเหล่านี้จัดการกับเจียงไคเช็ค ท่านก็เห็นแล้วใช่ไหม ตอนนี้เจียงไคเช็คไปอยู่ไหนแล้ว"

"ท่านประธาน ขอให้ท่านมีสุขนามัยที่แข็งแรง อายุยืนยาว พวกเราจะได้มาขอคำชี้แนะบ่อย ๆ"

"ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ ข้าพเจ้าแก่มากแล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้ว ระยะนี้ร่างกายไม่ค่อยดี จะลุกจะนั่งทีไรก็รู้สึกปวดตรงนี้ ไม่นานก็จะตายแล้ว"

"ท่านอย่าพูดเล่นเช่นนี้เลย มนุษย์มิอาจขาด "ผู้ร้าย หมายเลขหนึ่ง" อย่างท่านไปได้"

"มีคนบอกว่าคนที่มาหาข้าพเจ้าแล้ว กลับไปต้องมีอันเป็นไป อย่างเช่น ประธานาธิบดีนิกสัน ยังมีกษัตริย์ เฮร์ซา แห่งเอธิโอเบียเป็นต้น หลังเจอข้าพเจ้าแล้ว พังหมดเลย ท่านไม่กลัวลงจากเวทีหรือ"

"จะพังก็ช่างมันเถอะ ไหนๆ ก็มาแล้วนี่"
..................

เหมาเจ๋อตุงและม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช, กรุงปักกิ่ง, 30 มิถุนายน พ.ศ. 2518
วาทะศิลป์แบบนักการฑูต จิตใจที่ดีงาม จะช่วยให้เพื่อนรักษามิตร รักษาทองคำไว้ได้ ชีวิตงานแบบฟรีแลนซ์ มักไม่ได้พึ่งพาความสามารถส่วนตัวเพียงอย่างเดียว คอนเนคชั่น เป็นเรื่องสำคัญมาก มันไม่สำคัญว่าคุณรู้อะไร คุณรู้จักใครและใครรู้จักคุณ นั่นคือสิ่งที่สำคัญกว่ามากในยุคสมัยนี้ครับ



ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม